ถ้าจีน – อเมริกา เปิดศึกกันเรื่องไต้หวัน จะส่งผลกระทบยังไงกับไทย
ผมรู้สึกแปร่งๆ ที่นาย ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์เตือนว่า “อาเซียนอาจมีความรุนแรง” ในการแถลงต่อประชาชนเนื่องในวันชาติสิงคโปร์ เมื่อ 21 สิงหาคม 2565 (วันชาติสิงคโปร์ 9 สิงหาคม) พร้อมกับเตือนประชาชนว่าคนสิงคโปร์ต้องเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง เพราะมีความตึงเครียดระหว่างจีนกับอเมริกาซึ่งย้ายเข้ามาในอาเซียน ทั้งสองฝ่ายประกาศแยกตัวจากกันมากขึ้น มีข้อขัดแย้งหลายเรื่องจนยากต่อการแก้ไข นอกจากนี้ยังมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งไม่สิ้นสุด และยังเตือนว่ากองกำลังของสิงคโปร์ต้องรับใช้ชาติอย่างจริงจัง ต้องทำให้กองทัพและหน่วยรักษาความปลอดภัยแข็งแกร่ง มีความน่าเชื่อถือที่สุด
เขากล่าวต่อไปว่า อาเซียนมีความสงบสันติมานาน หากมีอะไรเกิดขึ้นอย่างฉับพลันเหมือนในยุโรปแล้ว อาเซียนจะเป็นอย่างไร
ความแปร่งที่ผมรู้สึกได้ก็คือ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คงจะรู้สึกและรับรู้ได้ของเค้าลางด้านความขัดแย้งของสองมหาอำนาจที่จะเข้ามามีผลกระทบในอาเซียน และแต่ละประเทศในอาเซียนอาจต้องตัดสินใจในวาระสำคัญ
ในการกล่าวกับประชาชนสิงคโปร์ นาย ลี เซียน ลุง พูดชัดเจนว่าสิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก จะทำอะไรหรือตัดสินใจในประเด็นสำคัญๆ จะยึดหลักนิติธรรมสากลหรือหลักกฎหมายเป็นหลัก
ในกรณีของวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครน การที่สิงคโปร์เห็นด้วยกับมติสหประชาชาติให้ประณามรัสเซียเพราะยึดหลักการดังกล่าว การที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวว่า “อาเซียนอาจมีความรุนแรง” คงจะเนื่องมาจากปัญหาจีนและอเมริกาในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีพื้นที่ 3.5 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมตั้งแต่สิงคโปร์ถึงช่องแคบไต้หวัน
กลับมาถึงความคิดที่ว่า “อาเซียนอาจมีความรุนแรง” หากเป็นเช่นนั้นไทยอาจจะได้รับผลกระทบดังนี้
- ผลกระทบหนักสุดคือการค้าโดยเฉพาะการนำเข้า-ส่งออก ทางเรือ ระหว่างไทยกับประเทศจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม จะชะงักหรืออาจหยุดเลยเพราะไม่มีเรือลำไหนจะกล้าผ่านเข้าไปในเขตสู้รบอย่างแน่นอน (นอกจากเรือดำน้ำ)
.
2. ข่าวการสู้รบจะกระจายไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวจึงไม่เข้าประเทศไทยหรือเข้าน้อยลง เพราะนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศต้องบินผ่านทะเลจีนใต้ นักท่องเที่ยวจากส่วนอื่นของโลกก็จะชะลอการท่องเที่ยวด้วย
.
3. สินค้าจำเป็นบางอย่างที่ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศจะลดน้อยลง เช่น พลังงาน
.
4. สินค้าส่งออกไปประเทศในแถบทะเลจีนใต้ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ จะลดลง หรือไม่มี (ในช่วงที่มีความรุนแรง)
.
5. สินค้าจะแพงและขาดแคลนเพราะเชื้อเพลิงจะปรับราคาสูงขึ้น มีการกักตุนสินค้าบางอย่าง ทำให้สินค้าหลายอย่างแพงมากขึ้น เช่น อาหารและของใช้จำเป็น
.
6. การส่งออกของไทยไปทุกภูมิภาคจะลดลงเพราะความรุนแรง
.
- ประเทศไทยจะมี GDP ต่ำลงจากการประมาณการ เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวและการส่งออกลดลง รวมทั้งการจัดเก็บภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิต จะลดน้อยลง
.
8. รัฐบาลต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศหรือออกพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้น ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มมากขึ้น
.
9. ปัญหาเงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย ประชาชนที่มีรายได้น้อยจะเดือดร้อน เพราะสินค้าและบริการจะแพงขึ้น
.
10. พืชผลทางการเกษตรจะเสียหายเพราะเก็บเกี่ยวได้ แต่ราคาต่ำหรือขายยาก
.
11. ระบบ Logistics และ Supply Chain จะได้รับผลกระทบทั้งระดับภูมิภาค ระดับประเทศ ต้นทุนด้าน Logistics จะสูงขึ้น
.
12. ธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบมากขึ้น คนตกงานมากขึ้น
.
13. รัฐสวัสดิการบางอย่างของประชาชนอาจจะได้รับผลกระทบ
การเตรียมการเพื่อความพรักพร้อม ป้องกันและแก้ไขจากผลกระทบต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ต้องสนใจ โดยเฉพาะผู้นำเข้า-ส่งออก
ติดต่อ สอบถาม ใช้บริการ นำเข้า-ส่งออก คลิกที่นี่ หรือ โทร 0-2742-7851-5 / 0-2742-7858-60 หรือ อีเมล์ mks@ebcitrade.com
21 กันยายน 2565
เกี่ยวกับผู้เขียน
*สายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็กซ์เซลเล้นท์ บิสเนส คอร์ปอร์เรชั่น อินเตอร์-แนชชั่นแนล จำกัด (อีบีซีไอ) อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ อดีตประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ สภาปฏิรูปแห่งชาติ ผู้ชำนาญการด้านโลจิสติกส์ การค้าระหว่างประเทศและสิทธิประโยชน์ภาษีอากร